หมูสะเต๊ะ
เครื่องปรุงและส่วนผสมหมูสะเต๊ะ
เนื้อหมูนำมาแล่เป็นชิ้น (ขนาดประมาณ ขนาด 2 x 6 ซม.) 500 กรัม
(แนะนำให้ใช้เป็นหมูสันนอกหรือเนื้อหมูส่วนสะโพก…หากเป็นเนื้อหมูรุ่นจะดีมาก เพราะเนื้อหมูจะนุ่ม)
ลูกผักชีคั่วให้หอม 1 ½ ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ครับ…ถ้าใส่จะหอมดี)
ลูกยี่หร่าคั่วให้หอม ½ ช้อนโต๊ะ
ข่าสับพอหยาบๆ 1 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ ½ ถ้วย
ผงขมิ้น 1 ช้อนขา (ถ้ากลัวไม่เหลืองให้ใส่เพิ่มได้ แล้วแต่ชอบ)
ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา
น้ำตาลทรายนวล 1 ½ ช้อนโต๊ะ
พริกไทดำป่น 1/2 ช้อนชา (ถ้าไม่มีใช้พริกไทขาวแทนก็ได้)
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ไม้เสียบหมูสะเต๊ะ
ผงฟู ½ ช้อนชา หรือน้ำสัปปะรด 2 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้…เพื่อให้เนื้อหมูนุ่มๆเด้งๆ)
เครื่องปรุงน้ำกระทิพรมหมูสะเต๊ะ
หัวกะทิ 1 ถ้วย
นมสด หรือนมสดตราคาร์เนชั่น/ตรานกเหยี่ยว 1 ถ้วย
วิธีทำ: นำหัวกระทิและนมสดมาผสมให้เข้ากัน ทำไว้สำหรับพรมสะเต๊ะขณะย่าง ที่ทำแปรงพรมด้วยใบเตยฉีก
เนื้อหมูนำมาแล่เป็นชิ้น (ขนาดประมาณ ขนาด 2 x 6 ซม.) 500 กรัม
(แนะนำให้ใช้เป็นหมูสันนอกหรือเนื้อหมูส่วนสะโพก…หากเป็นเนื้อหมูรุ่นจะดีมาก เพราะเนื้อหมูจะนุ่ม)
ลูกผักชีคั่วให้หอม 1 ½ ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ครับ…ถ้าใส่จะหอมดี)
ลูกยี่หร่าคั่วให้หอม ½ ช้อนโต๊ะ
ข่าสับพอหยาบๆ 1 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ ½ ถ้วย
ผงขมิ้น 1 ช้อนขา (ถ้ากลัวไม่เหลืองให้ใส่เพิ่มได้ แล้วแต่ชอบ)
ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา
น้ำตาลทรายนวล 1 ½ ช้อนโต๊ะ
พริกไทดำป่น 1/2 ช้อนชา (ถ้าไม่มีใช้พริกไทขาวแทนก็ได้)
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ไม้เสียบหมูสะเต๊ะ
ผงฟู ½ ช้อนชา หรือน้ำสัปปะรด 2 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้…เพื่อให้เนื้อหมูนุ่มๆเด้งๆ)
เครื่องปรุงน้ำกระทิพรมหมูสะเต๊ะ
หัวกะทิ 1 ถ้วย
นมสด หรือนมสดตราคาร์เนชั่น/ตรานกเหยี่ยว 1 ถ้วย
วิธีทำ: นำหัวกระทิและนมสดมาผสมให้เข้ากัน ทำไว้สำหรับพรมสะเต๊ะขณะย่าง ที่ทำแปรงพรมด้วยใบเตยฉีก
วิธีทำหมูสะเต๊ะ
โขลก ลูกผักชีคั่ว ลูกยี่หร่าคั่ว จนละเอียด จากนั้นใส่ข่า ตะไคร้ โขลกให้เข้ากันจนละเอียดดีแล้ว
นำเครื่องที่โขลกใส่ลงไปในอ่างเนื้อหมู…(จากข้อ 1) จากนั้นก็ใส่น้ำตาล หัวกระทิ ผงขมิ้น ผงกะหรี่ พริกไทป่น ผงฟู เกลือป่น และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันดี ด้วยการคลุกเคล้าขยำๆเบาๆ ควรนวดนานๆ เพื่อให้เครื่องหมักซึมเข้าเนื้อหมูได้ดียิ่งขึ้น
จากนั้นนำหมูไปใส่กล่องพลาติก นำไปแช่ในตู้เย็นช่องแข็ง แล้วหมักทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง หรือจะหมักข้ามคืนก็ได้ยิ่งดี (การแช่ใว้ในความเย็นนานๆ…จะทำให้น้ำหมักหมูดูดซึมเข้าไปในเนื้อมาก…จะทำให้เนื้อหมูนุ่มดีค่ะ)
เมื่อครบ 3 ชั่วโมงแล้ว นำมาเสียบไม้พักไว้ในตู้เย็น จนกระทั่งจะปิ้ง หรือ ถ้ายังไม่ทานให้ห่อให้สนิทแล้วนำเข้าแช่ในช่องแข็ง แล้วจึงนำออกมาพักในตู้เย็นช่องธรรมดาจนอ่อนตัวลง…แล้วจึงค่อยนำไปปิ้ง
วิธีย่างหมูสะเต๊ะ คือ ก่อนที่จะอย่างหมูสะเต๊ะ ให้นำหมูที่เสียบไม้แล้วนำมาชุบในน้ำพรมหมูสะเต๊ะที่เตรียมไว้ แล้วจึงนำไปอย่างด้วยไฟปานกลาง (ห้ามใช้ไฟอ่อน หมูจะแข็งไม่อร่อย) แล้วขณะที่ย่างให้พรมน้ำกระทิ(ที่เตรียมไว้) ลงบนหมูสะเต๊ะขณะปิ้งเล็กน้อย และหมั่นพลิกหมูบ่อยๆ ให้สุกทั่วกัน ควรย่างให้พอสุกจะได้สะเต๊ะหมูเนื้อนุ่มละมุน (ถ้าย่างนานเกินไปเนื้อจะแห้งหยาบไม่อร่อย) และควรย่างกับเตาถ่านหรือเตาบาบีคิวจะได้กลิ่นหอมอร่อยมากยิ่งขึ้น
จัดหมูสะเต๊ะใส่จานเสิร์ฟ พร้อมกับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะและอาจาด หรือจะทำขนมปังปิ้งร้อนๆ ด้วยก็ยิ่งอิ่มอร่อยมากขึ้น
โขลก ลูกผักชีคั่ว ลูกยี่หร่าคั่ว จนละเอียด จากนั้นใส่ข่า ตะไคร้ โขลกให้เข้ากันจนละเอียดดีแล้ว
นำเครื่องที่โขลกใส่ลงไปในอ่างเนื้อหมู…(จากข้อ 1) จากนั้นก็ใส่น้ำตาล หัวกระทิ ผงขมิ้น ผงกะหรี่ พริกไทป่น ผงฟู เกลือป่น และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันดี ด้วยการคลุกเคล้าขยำๆเบาๆ ควรนวดนานๆ เพื่อให้เครื่องหมักซึมเข้าเนื้อหมูได้ดียิ่งขึ้น
จากนั้นนำหมูไปใส่กล่องพลาติก นำไปแช่ในตู้เย็นช่องแข็ง แล้วหมักทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง หรือจะหมักข้ามคืนก็ได้ยิ่งดี (การแช่ใว้ในความเย็นนานๆ…จะทำให้น้ำหมักหมูดูดซึมเข้าไปในเนื้อมาก…จะทำให้เนื้อหมูนุ่มดีค่ะ)
เมื่อครบ 3 ชั่วโมงแล้ว นำมาเสียบไม้พักไว้ในตู้เย็น จนกระทั่งจะปิ้ง หรือ ถ้ายังไม่ทานให้ห่อให้สนิทแล้วนำเข้าแช่ในช่องแข็ง แล้วจึงนำออกมาพักในตู้เย็นช่องธรรมดาจนอ่อนตัวลง…แล้วจึงค่อยนำไปปิ้ง
วิธีย่างหมูสะเต๊ะ คือ ก่อนที่จะอย่างหมูสะเต๊ะ ให้นำหมูที่เสียบไม้แล้วนำมาชุบในน้ำพรมหมูสะเต๊ะที่เตรียมไว้ แล้วจึงนำไปอย่างด้วยไฟปานกลาง (ห้ามใช้ไฟอ่อน หมูจะแข็งไม่อร่อย) แล้วขณะที่ย่างให้พรมน้ำกระทิ(ที่เตรียมไว้) ลงบนหมูสะเต๊ะขณะปิ้งเล็กน้อย และหมั่นพลิกหมูบ่อยๆ ให้สุกทั่วกัน ควรย่างให้พอสุกจะได้สะเต๊ะหมูเนื้อนุ่มละมุน (ถ้าย่างนานเกินไปเนื้อจะแห้งหยาบไม่อร่อย) และควรย่างกับเตาถ่านหรือเตาบาบีคิวจะได้กลิ่นหอมอร่อยมากยิ่งขึ้น
จัดหมูสะเต๊ะใส่จานเสิร์ฟ พร้อมกับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะและอาจาด หรือจะทำขนมปังปิ้งร้อนๆ ด้วยก็ยิ่งอิ่มอร่อยมากขึ้น
สูตรน้ำอาจาด (สูตรอร่อยเข้มข้นกำลังดี)
เครื่องปรุงและส่วนประกอบ
- น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย
- น้ำตาลทราย ¼ ถ้วย (+ 2 ช้อนโต๊ะ) (เพิ่มหรือลดได้นิดหน่อยขึ้นอยู่กับน้ำส้มสายชูที่ใช้)
- น้ำสะอาด ⅓ ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- แตงกวาเลือกเอาลูกเล็ๆผ่าครึ่ง สไลด์บาง 100 กรัม
- ผักชีเด็ดเป็นใบ สำหรับโรยหน้าเล็กน้อย
- พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบบางๆ 1 เม็ด -พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบบางๆ 1 เม็ด
- หอมแดงลอกเปลือก ซอยบางๆ 2 หัว
- น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย
- น้ำตาลทราย ¼ ถ้วย (+ 2 ช้อนโต๊ะ) (เพิ่มหรือลดได้นิดหน่อยขึ้นอยู่กับน้ำส้มสายชูที่ใช้)
- น้ำสะอาด ⅓ ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- แตงกวาเลือกเอาลูกเล็ๆผ่าครึ่ง สไลด์บาง 100 กรัม
- ผักชีเด็ดเป็นใบ สำหรับโรยหน้าเล็กน้อย
- พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบบางๆ 1 เม็ด -พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบบางๆ 1 เม็ด
- หอมแดงลอกเปลือก ซอยบางๆ 2 หัว
วิธีทำอาจาด
ใส่น้ำ น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชูลงในหม้อ แล้วตั้งไฟเคี่ยวให้น้ำตาลและเกลือละลาย
จากนั้นชิมให้ได้สามรส เปรี้ยว เค็ม หวาน หรือเปรี้ยว หวาน เค็ม แล้วแต่ชอบ
จากนั้นพักไว้ให้เย็นก่อน เวลาจะเสิร์ฟถึงค่อยใส่แตงกวา หอมแดง พริกชี้ฟ้า และผักชี ลงในถ้วย…แล้วตักน้ำที่เคี่ยวไว้ลงไปผสม แล้วน้ำอาจาดเสิร์ฟพร้อมกับสะเต๊ะ และน้ำจิ้มสะเต๊ะ
ใส่น้ำ น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชูลงในหม้อ แล้วตั้งไฟเคี่ยวให้น้ำตาลและเกลือละลาย
จากนั้นชิมให้ได้สามรส เปรี้ยว เค็ม หวาน หรือเปรี้ยว หวาน เค็ม แล้วแต่ชอบ
จากนั้นพักไว้ให้เย็นก่อน เวลาจะเสิร์ฟถึงค่อยใส่แตงกวา หอมแดง พริกชี้ฟ้า และผักชี ลงในถ้วย…แล้วตักน้ำที่เคี่ยวไว้ลงไปผสม แล้วน้ำอาจาดเสิร์ฟพร้อมกับสะเต๊ะ และน้ำจิ้มสะเต๊ะ
ถ้าจะให้ดีควรจะแยกผักกับน้ำจิ้มอาจาดไว้นะ ถึงเวลาเสิร์ฟแล้วค่อยตักรวมกัน ป้องกันผักเฉาและรักษาความกรอบ จะได้แตงที่กรอบอร่อยกว่า
ที่มามาสูตรเรียบเรียงโดย : zabwer.comhttp://www.zabwer.com/2013/06/pork-satay.html
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น